'อริสโตเติล' (Aristotle 384–322 ปีก่อนคริสตกาล ) นักปรัชญาชาวกรีกได้กล่าวเอาไว้ว่า “การรู้จักตนเองเป็นจุดเริ่มต้นแห่งปัญญา" “knowing yourself is the beginning of all wisdom.”
การรู้จักตนเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องเรียนรู้ให้เข้าใจอย่างแท้จริง เพื่อนำมาพัฒนาชีวิตให้เจริญก้าวหน้า ได้อย่างถูกต้อง การรู้จักตัวเอง คืออะไร มีอะไรบ้างที่จะบอกได้ว่า เราเข้าใจและรู้จักตัวเองแล้ว การรู้จักตัวเองคือการค้นพบว่าเรามีพรสวรรค์ด้านใด
พรสวรรค์คือสิ่งที่หลอมรวมกันระหว่างสันชาติญาณ จิตวิญญาณ และวิจารณญาณ
เด็กคนหนึ่งชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ (สันชาติญาณ) เมื่อเขาได้โอกาสแสดงการร้องเพลงต่อผู้คนเขาจะมีความสุขและพริ้วไหวเคลิบเคลิ้มไปกับการร้องการแสดง(จิตวิญญาณ) และในที่สุดเขาก็รู้และเลือกที่จะร้องเพลงแบบไหนที่เป็นเอกลักษณ์หรือสไตล์ของตนเอง (วิจารณญาณ ) และนี่คือการรู้จักพรสวรรค์ของตัวเอง หรือ “การรู้จักตัวเอง” ซึ่งมีองค์ประกอบไปด้วย
1.การค้นพบตัวเอง (Self -Discovery) เรารู้ว่าเรารู้ คือจุดเริ่มต้นของการการรับรู้และการก้าวสู่สำเร็จ เช่นรู้ว่าเรามีความชอบและทำได้ดีเป็นพิเศษในการร้องเพลงและการแสดง
2.การเข้าใจตัวเอง (Self-Awareness) เรารู้ว่าเราไม่รู้ เป็นกระบวนการขยายผลของการค้นพบแล้วรู้จักตนเองว่า มีจุดแข็ง หรือจุดอ่อนด้านไหน คือเรารู้ว่าเราร้องเพลงเก่ง แต่อาจไม่ใช่ทุกแนวทุกสไตล์ เรารู้ว่าเราร้องเพลงไทยได้ดี แต่มีข้อด้อยในการร้องเพลงสากล เนื่องจากเราไม่เก่งภาษาอังกฤษ หรือไม่มีพื้นฐานที่ดีในด้านภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจมีหลายเหตุปัจจัยที่ผ่านมา
3.การยอมรับตัวเอง (Self-Acceptance) เราไม่รู้ว่าเรารู้ เรื่องนี้สำคัญมากถ้าไม่ยอมรับก็จะไม่ปรับเปลี่ยน การยอมรับคือการตัดสินใจเพื่อจัดการขั้นต่อไป เช่นยอมรับว่าเราไม่เก่งภาษาอังกฤษด้วยหลายเหตุปัจจัยทีผ่านมาไม่ได้เรียนภาษามาตั้งแต่ต้นทำให้เราไม่เก่งและไม่เข้าใจในภาษา แต่จะพยายามร้องเพลงสากลให้ดีให้ได้ เพื่อนำไปแข่งขัน จะทำให้เสียเวลาและเสียโอกาสไปมาก แต่ในทางที่ถูกต้อง เราควรไปมุ่งฝึกซ้อมพัฒนาเพลงตามสไตล์และแนวทางที่เราถนัดจะทำให้เกิดความเชี่ยวชาญและมีความพริ้วไหวเป็นธรรมชาติตามจริตและจิตวิญญาณเดิมที่มีอยู่แล้วในตนเอง
4.การพัฒนาตัวเอง (Self-Development) เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้ คือความรู้และวิธีการในการเจียระไนให้ตัวเองเป็นนักร้องมืออาชีพ เสมือนเพชรผ่านการเจียรไนออกมาสวยงามตามที่ตั้งใจและวางแผนไว้ แน่นอนว่าระหว่างทางคือช่วงเวลาของการดำเนินการเจียระไนนั้นต้องมีความยากลำบากและอุปสรรคมาก ออกแบบวางแผนให้ครบถ้วน กำหนดเวลา ลงมือทำไมอย่างต่อเนื่องตามเริ่มต้นจากสิ่งที่เล็ก มองปัญหาให้รอบด้าน อดทนและเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อระหว่างทางและนี่คือสิ่งที่เราไม่รู้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามการเรียนรู้และการพัฒนาทุกอย่างต้องยอมรับว่าจำเป็นต้องมีครู มีโค้ชผู้เชี่ยวชาญที่ต้องเรียรรู้และรับคำแนะนำ แต่ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้เราก็จะไม่พบจุดอ่อนหรือข้อด้อยของตนเอง ทำให้เสียเวลาและโอกาสที่จะก้าวสู่ความเป็นเลิศไปอย่างน่าเสียดาย
5.ภูมิใจในตัวเอง(Self-Esteem) ความรู้สึกยินดีกับตัวเองที่มาจากภายใน ความภูมิใจที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้คือการรู้จักตัวเองแล้วตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้สำเร็จในช่วงเวลาใด ความฝันกับความหวังเป็นสิ่งที่มีพลัง แต่ถ้าไม่กำหนดเวลาไว้ความหวังก็ยังเป็นเพียงความฝัน ความสำเร็จก็จะเลื่อนออกไปไม่มีเวลากำหนด ดังนั้นต้องกำหนดเวลา เดือน ปี และเมื่อทำได้ก็จงภาคภูมิใจในตัวเองและความสำเร็จที่ได้มา ความภาคภูมิใจในตัวเองเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เราก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น มองย้อนตัวเอง (Self Reflection)ว่าเรามาถึงจุดใด มองเป้าหมายว่าเราจะไปถึงตรงไหน(Future Me) และยังอยูอีกไกลแค่ไหน มีปัญหาและอุปสรรคใดที่เราจะต้องฟันผ่านให้ผ่านพ้นไปได้เพื่อพิชิตเป้าหมายใหม่ๆอีกครั้ง เพื่อจะทำให้สำเร็จและดีกว่าเดิมให้จงได้
อย่างไรก็ตาม การค้นพบพรสวรรค์และการรู้จกตัวเอง ด้วยนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ลายนิ้วมือก็เป็นอีกหนึ่งทางลัดที่ทำให้คนเรา ได้ค้นพบและรูจักตัวอง
--
ลองเช็คและรู้จักตัวเองจากลายนิ้วหัวแม่มือซ้าย
สแกน QR หรือกดลิ้งนี้ https://www.brainten10.com/talent/