ลายนิ้วมือถือเป็น Biometric หรือไม่?

DMIT (Dermatoglyphics Multiple Intelligence Test) ถือเป็น Biometric หรือไม่?

คำตอบคือ "ใช่" DMIT สามารถจัดอยู่ในกลุ่ม Biometric ได้ เนื่องจากมีการใช้ ลักษณะทางชีวภาพ (Biological Characteristics) ที่มีความเฉพาะตัวของมนุษย์ นั่นคือ ลายนิ้วมือ (Fingerprints) ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลชีวมิติ (Biometric Data) ที่นิยมใช้มากที่สุดในหลายศาสตร์และเทคโนโลยี

เหตุผลที่ DMIT จัดเป็น Biometric

1. Biometric คืออะไร?
• Biometric หมายถึง กระบวนการระบุตัวตนบุคคลหรือวิเคราะห์ข้อมูล โดยอาศัย ลักษณะทางกายภาพหรือพฤติกรรม ที่เป็น เอกลักษณ์เฉพาะบุคคล
• ตัวอย่าง Biometric ทางกายภาพ เช่น ลายนิ้วมือ, ม่านตา, ใบหน้า
• ตัวอย่าง Biometric ทางพฤติกรรม เช่น เสียงพูด, ลายเซ็น, การก้าวเดิน
2. DMIT ใช้ข้อมูลชีวมิติ (Biometric Data)
• DMIT อาศัย ลายนิ้วมือ ซึ่งเป็นลักษณะทางชีวภาพที่ไม่เหมือนกันในแต่ละคน และไม่เปลี่ยนแปลงตลอดชีวิต
• ลายนิ้วมือถูกนำมาวิเคราะห์ร่วมกับ ศาสตร์ Dermatoglyphics เพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงกับสมอง และศักยภาพทางปัญญาในด้านต่าง ๆ
3. ความแม่นยำและความคงทนของข้อมูล
• ลายนิ้วมือเป็น ข้อมูลถาวร ไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา
• เป็นข้อมูลที่สามารถนำมาวิเคราะห์ซ้ำได้ และมีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งตรงตามหลักการของ Biometric
4. การวิเคราะห์เพื่อระบุเอกลักษณ์และศักยภาพเฉพาะบุคคล
• แม้ DMIT จะไม่ใช่ Biometric ที่เน้นการยืนยันตัวตน (เช่น การสแกนเพื่อยืนยันว่าเป็นใคร) แต่ DMIT ใช้ลายนิ้วมือเป็นเครื่องมือในการระบุ พรสวรรค์และศักยภาพ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะบุคคลที่ไม่มีใครเหมือน

สรุป

DMIT (Dermatoglyphics Multiple Intelligence Test) จัดเป็น Biometric เนื่องจากใช้ ลายนิ้วมือ ซึ่งเป็นข้อมูลชีวมิติที่มีความเฉพาะตัวและคงทนถาวร เพื่อทำการวิเคราะห์ความสามารถ ศักยภาพ และปัญญาด้านต่าง ๆ ของมนุษย์ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือและสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายทั้งด้านการศึกษา การพัฒนาบุคคล และการค้นหาพรสวรรค์

  ดูตัวอย่างรายงานวิเคราะห์  สำหรับ 1 คน ( เป็นรายงานเฉพาะบุคคล )

ประโยชน์ที่จะได้รับจากผลวิเคราะห์การสแกนลายนิ้วมือ 10 นิ้ว

✅สิ่งที่จะได้รับจากผลรายงานวิเคราะห์แต่ละบุคคล
  1. รู้จักบุคลิกลักษณะนิสัยและแนวทางการพัฒนาสู่ความสำเร็จ
  2.ศักยภาพการเรียนรู้โดยรวม(ค่า TRC - Ridge Counter)
  3. สไตล์การเรียนรู้(VAK-Learning  Style)
  4. ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(ความต่างศักย์ของปัญญาแต่ละด้าน)
  5. ทราบผลการทำงานของสมอง 5 ตำแหน่ง ที่ส่งผลต่อการเรียนรู้
     (การคิด, วิเคราะห์,เคลื่อนไหวกายภาพ,ฟัง,มองเห็น)
  6. สรุปผลรวมของศักยภาพ พรสวรรค์ การเรียนรู้
      -ศักยภาพรวมของสมองและความสามารถในการเรียนรู้
      -ความฉลาด 4 ประเภท (IQ,EQ,AQ,CQ) และการพัฒนาที่เหมาะสม
  7. สรุป 10 อาชีพ/สายการเรียน เรียงตามพหุปัญญาด้านที่เด่น
      และรองลงไป
  8.สรุปแนะนำ 20 กลุ่มอาชีพที่เหมาะสม จากกลุ่มที่ดีที่สุดและรองลงไป
  9. แนวทางการพัฒนาสายการเรียนหรืออาชีพที่เหมาะสม
?คลิกดูตัวอย่างผลรายงานวิเคราะห์ 30 หน้า  https://anyflip.com/cpwqc/than