บุคคลไอคิว(IQ-intelligence quotient ความฉลาดทางสติปัญญา)ในการวิเคราะห์ลายนิ้วมือ สามารถทราบถึงระดับไอคิว(IQ-intelligence quotient)ของบุคคลได้ ไอคิว มาจากพหุปัญญา 2 ด้านหลักคือ พหุปัญญาด้านภาษา (Linguistic Intelligence) และพหุปัญญาด้านตรรกศาสตร์และคณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence) โดยมีพหุปัญญาด้านอื่นๆ เป็นตัวสนับสนุนอีก 8 พหุปัญญา (อ่านเพิ่มเติม พหุปัญญา 10 ประการ)
-----
-------
3 ลำดับบุคคลไอคิวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก Universal Genius
----
1. William James Sidis : IQ 200-300
wikipedia- http://bit.ly/2NyplBS
วิลเลี่ยม เจมส์ ไซดีส เป็นชาวรัสเซีย เกิดวัน April Fool’s Day หรือ 1 เมษายน ค.ศ.1898 สมาคมทางด้าน IQ ให้ฉายาว่า “Universal Genius” บุคคลที่ถือว่า
“ฉลาดทีสุดในจักรวาล”
ตั้งแต่ 1 ขวบ เขาสามาารถสะกดคำทุกคำได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ
เมื่อ 1 ขวบครึ่ง สามารถอ่านหนังสือพิมพ์ New York Times ได้
เมื่อ 2 ขวบ สามารถเรียนรู้ภาษาลาตินได้ด้วยตัวเอง
เมื่อ 3 ขวบ สามารถพิมพ์ดีดได้เองแล้ว ส่งจดหมายสั่งของเล่นมาให้ตัวเอง
เมื่อ 4 ขวบ สามารถอ่านนิยายภาษาลาติน จากนิยายเรื่อง Caesar’s Gallic Wars
เมื่อ 6 ขวบ เรียนวิชาตรรกศาสตร์ของอริสโตเติลและเริ่มเรียนภาษารัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮิบรู ตุรกี อาร์เมเนียน และช่วงเดียวกันนี้ เขาเริ่มเรียน Gray’s
Anatomy พวกกายวิภาค โดยเข้า Grammar School และจบในเวลา 7 เดือน
เมื่ออายุได้ 7 ขวบ เขาก็สามารถสอบผ่าน Harvard Medical School anatomy exam ได้สำเร็จ
เมื่อ 8 ขวบ เขียนหนังสือเกี่ยวกับ Anatomy และ Astronomy ออกมา ทั้งหมด 4 เล่ม และสามารถพูดภาษาได้ 10 ภาษาอย่างคล่องแคล่ว และยังสามารถสอบ entrance exam ของ MIT ผ่านอีกด้วย
เมื่ออายุเข้า 10 ขวบ พบข้อผิดพลาดของหนังสือของ Josiah Royce อาจารย์แห่งมหาวิทยาลัย Harvard
เมื่อ 11 ขวบ เป็นผู้ที่เข้าศึกษาที่ Harvard ที่อายุน้อยที่สุด
และเมื่ออายุ 16 จบจาก Harvard หลังจากนั้นในปีต่อมา ก็เข้ามาศึกษาต่อ Harvard Law School
--
2. Johann Wolfgang von Goethe (โยฮันน์ วอล์ฟกัง ฟอน เกอเทอ) : IQ 210-225
wikipedia- http://bit.ly/2N1w5ZO
โยฮันน์ โวล์ฟกัง ฟอน เกอเธ่ เกิดในปี 1749 เป็นที่รู้จักในฐานะผู้มากพรสวรรค์ด้านอักษรศาสตร์คนหนึ่ง
ผลงานของเขามีทั้งบทกวี บทละคร บันทึกความทรงจำ อัตชีวประวัติ บทวิจารณ์ นวนิยาย งานประเภทจดหมายกว่าหมื่นชิ้น
รวมถึงภาพวาดจากฝีมือของเขาเอง นอกจากนี้เขายังมีความรู้ด้านชีววิทยา การเมืองการปกครอง ปรัชญา และอื่นๆ อีกมากมาย
ไอสไตน์เรียกเขาว่า “มนุษย์คนสุดท้ายบนโลกที่รู้ทุกสิ่ง” เขามีความสามารถมากมาย เช่น เคมีในร่างกายมนุษย์ และ
ยังมีความสามารถในการประพันธ์บทละคร วรรณกรรม
เป็นผู้รู้รอบด้านชาวเยอรมัน เขาเป็นทั้งนักเขียนนิยาย นักเขียนบทละคร นักสิทธิมนุษยชน นักวิทยาศาสตร์
นักปรัชญา รวมถึงดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะบริหารของไวมาร์ในประเทศเยอรมนีอยู่ 10 ปี
เกอเทอเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของวรรณคดีเยอรมัน คลาสสิกใหม่ของยุโรปและโรมัน
ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เกอเทอและงานของเขาได้ส่งผลไปทั่วยุโรปและ
ได้สร้างแรงบันดาลใจกับงานต่อ ๆ มาทางด้าน ดนตรี การละคร และกวี
--
3. Albert Einstein (อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์) : IQ 205-225
wikipedia- http://bit.ly/2Mfg7WJ
เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ
และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์ และจักรวาลวิทยา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2464
จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และจาก “การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี”
ในประวัติศาสตร์ ไอน์สไตน์ ได้กลายมาเป็นแบบอย่างของความฉลาดหรืออัจฉริยะ
ยังคงถูกยกย่องให้เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์ที่สุดในยุคปัจจุบัน
ไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์ผลงานทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 300 ชิ้น และงานอื่นที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกกว่า 150 ชิ้น
ผลงานของไอน์สไตน์ เช่น ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป, ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ, ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก, การเคลื่อนที่ของบราวน์,
สมการสนามของไอน์สไตน์, ทฤษฎีแรงเอกภาพ
----
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://teen.mthai.com/variety/89222.html